กลับมาเก่งอีกที เหมาคนละสองประตูให้กลุ่มซิวสามแต้มนำหัวหน้าฝูงถัดไป
กลับมาเก่งอีกที เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผู้นำฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต่อกร เซาธ์แฮมป์ตัน โดยฟอร์มปัจจุบันนั้น “เรือใบสีฟ้า” พึ่งสะดุดแพ้คาบ้านให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 หยุดสถิติชนะรวดทุกรายการไว้ที่ 21 ครั้งต่อๆกัน บุกไปเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 ประกาศแต่งตั้ง
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับทัพบางตำแหน่งจากปัจจุบัน ฟิล โฟเด้น และก็แบร์นาร์โด้ สิลวา กลับมาสตาร์ทตัวจริง กลับมาเก่งอีกที ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง รวมทั้งกาเบรียล เชซุส เป็นเพียงแค่สำรองข้างสนาม ในเวลาที่ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล นายใหญ่ ดร็อปทาคูมิ มินามิโนะเป็นเพียงแค่สำรอง โดยวางแท็คติกมาให้ เช อดัมส์ ยืนหน้าเป้า โดยมี สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง รวมทั้ง เจมส์วอร์ด-เพราส์ ปั้นเกมส่งเสริม
เริ่มครึ่งแรก จังหวะหนแรกของ “เรือใบสีฟ้า” แม้ว่าจะรอนานถึงตอนที่ 15 แต่ว่าก็มาพังทลายประตูขึ้นนำ “นักบุญ” 1-0 โดยทันที จากจังหวะที่ รูเบน ดิอาส วางบอลตัดแบ็กให้ โอเล็กซานเดอร์ สินเชนโก้ หลุดเข้าไปก่อนที่จะหักบอลเร็วมาหน้าประตูให้ ฟิล โฟเด้น ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ก่อนที่จะ เควิน เดอ บรอยน์ จะตามซ้ำเสยใต้คานไม่ถึง 5 หลาเข้าไปเป็นประตูที่ 4 ในฤดูกาลนี้ของห้องเครื่องชาวเบลเยียม
ครั้ง 23 เซาธ์แฮมป์ตัน แทบได้ลุ้นตีเสมอหลัง โมฮาเหม็ด ซาลิซู พนันบอลให้ เนธาน เร้ดมอนด์ พาบอลเข้าไปในจุดโทษก่อนที่จะปั่นด้วยขวาบอลแม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ชอนที่ปัดออกไป แต่อีกไม่ถึงนาทีตลอดจากลูกเตะมุม เจมส์ วอร์ด-เพราส์
เปิดมาให้ แยน เบ็ดนาเร็ก กระแทกไปติดเซฟ ก่อนบอลเด้งมาเข้าทางเพียรพยายามจะตามซ้ำแต่ว่าโดน เอมเมอริคลาป๊อร์กต์ ดึงเอาไว้ผู้ตัดสินที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เป่าเป็นจุดลูกโทษในทันที และก็เป็น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ซัดกึ่งกลางทางเข้าไปไม่พลาดให้ ไล่ตีเสมอ 1-1 ในนาที 25
นาที 30 กลุ่มเยี่ยมรอดตัวจากการเสียจุดลูกโทษข้างหลัง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ รับบอลคืนหลังจาก ซาลิซู ก่อนจับบอลห่างตัวโดน ฟิล โฟเด้น ถึงบอลก่อน แม็คคาร์ธี่ ที่ตามมาทิ่มข้อเท้า
แต่ว่า โฟเด้น พากเพียรเล่นต่อไม่ยินยอมล้ม ทำให้ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร กลับมาเก่งอีกที หากแม้บอลจะหยุดเกมไปแล้วรวมทั้งมีลำแข้ง เรือใบ วิ่งมากดดันที่จะให้เป่าเป็นจุดลูกโทษย้อนไปแต่ว่าก็ไม่เป็นผล โจนาธานมอสส์ บอกสัญญาณเล่นถัดไป
ตอน 33 เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ช่องลุ้นจากจังหวะที่ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ซัดบอลนอกกรอบแต่ว่าบอลก็ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ชอน โมราเอส ครั้ง 36 แนวรับสิตี้จ่ายบอลกันพลาดโดน ตัดบอลไปได้ก่อนที่จะ เช อดัมส์ จะผ่านบอลเร็วให้ มูสซ่า เฌเนโป วิ่งมาซัดด้วยขวาหลุดกรอบออกไป และก็จากจังหวะนี้ทำให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ ข่าวบอลล่าสุด
นาที 40 จำเป็นต้องมาเสียเม็ดลำดับที่สอง ให้เจ้าถิ่นแซงขึ้นนำอีกรอบ จากความบกพร่องของแนวรับที่ส่งบอลกันพลาดโดน ริยาด มาห์เรซ แย่งบอลได้ก่อนตัดเข้ากึ่งกลางแล้วซัดด้วยซ้ายข้างถนัดกว่า 20 หลาจ่ายบอลแทรกเสาซุกก้นตาข่ายเข้าไปจำพวกที่ อเล็กซ์ หมดสิทธิ์ปกป้องให้ แมนฯสิตี้ ขึ้นนำ 2-1 อีกรอบ
ตอนทดเจ็บ ตอน 45+3 แมนฯสิตี้ มานำห่างเป็น 3-1 จากการเข้าทำอันเหมาะสมที่สุด เดอ บรอยน์ หยุดบอลให้ ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงจักจี้เข้าไปในกรอบแล้วซัดผ่านมือ ไปสุดแท้ แต่บอลพุ่งไปชนเสา! แต่ทว่ายังมาเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ เป็นประตูที่ 12 ในลีกของกุนโดกันในช่วงฤดูกาลนี้ขึ้นนำดาวซัลโวของกลุ่ม
จบครึ่งแรก นำห่าง 3-1 กลับมาเล่นต่อช่วงหลัง มีการสลับตัวคนแรก
นำถอดเอา มูสซ่า เฌเนโป ที่เจ็บเล่นไม่ไหวออกแล้วให้ นาธาน เตลล่า ลงเล่นแทน “เรือใบสีฟ้า” รีบเกมรุกจู่โจมกดดันอย่างมาก ช่วง 50 ได้ลุ้นอีกทีจากจังหวะซัดไกล บอลพุ่งแรงจนกระทั่ง! อเล็กซ์ จะต้องปัดออกไป ต่อมาอีกนาทีจังหวะสวนกลับของเจ้าถิ่นมาถึง แบร์นาร์โด สิลวา ด้านซ้ายก่อนเฉือนไปหน้าประตูเลย ไปถึง เดอ บรอยน์ ซัดด้วยขวามุมแคบไปเข้ามือ แม็คคาร์ธี่
จนแล้วจนรอด แมนฯสิตี้ ก็มาได้ประตูลำดับที่สี่ขึ้นนำ ในช่วง 55 จากจังหวะที่ ผ่านบอลมาในกรอบให้ ริยาด มาห์เรซ แต่งบอลหลบก่อนตะบันด้วยซ้ายผ่านมือนายด่านนักบุญเข้าไปไม่เหลือให้ “เรือใบสีฟ้า” นำห่าง 4-1 รวมทั้งเป็นประตูลำดับที่สองของปีกแอลจีเรียในเกมนี้อีกด้วย
แต่ว่าอีกนาทีต่อมา เซาธ์แฮมป์ตัน มาฮึดไล่ยิงคืนมาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ปั่นไปไถลขา ลาป๊อร์กต์ ก่อนมาเข้าทางปืน หลุดเข้าไปซัดผ่านมือเอแอร์ชอน เข้าไป เจ้าของบ้านไม่คอยช้าหลังเสียเม็ดลำดับที่สองไป แค่นาครั้ง 59 มาพังทลายประตูนำลิ่วเป็น 5-2 ในทันที
บอลขึ้นทางขวามือ ไคล์ วอล์คเกอร์ จ่ายยัดเข้ากึ่งกลางมาให้ สัมผัสบอลสั้นให้ เควินเดอ บรอยน์ วิ่งมาเอาบอลแล้วแปลกรับนักบุญก่อนเข้าไปซัดเลียดเสาแรกหนีมือ เข้าไปเป็นเม็ดลำดับที่สองของ เดอ บรอยน์ ในเกมนี้เช่นเดียวกัน ดูบอลสด
ช่วง 72 ซิตี้หวุดหวิดได้เม็ดที่ 6 นำห่าง ครั้งนี้ อิลคาย กุนโดกัน! ดีดบอลใกล้ๆให้ ฟิล ซัดด้วยซ้ายพุ่งถากเสาออกไปแบบได้เสียว
ช่วง 78 เจ้าของบ้านทิ้งโอกาสทองอีก ข้างหลัง แฟร์นานดินโญ่ แย่งบอลจาก ซาลิซู ได้บอลมาเข้าทาง เฟร์ราน ตอร์เรซ ได้ยิงในกรอบแต่ว่าซัดถากเสาไกลออกไปอย่างโชคร้าย
ช่วงท้ายเกมไม่มีสกอร์เพิ่มอีก จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คืนฟอร์มคว้าชัยอีกทีหลังไล่กระหน่ำ เซาธ์แฮมป์ตัน แบบสนุกสนาน 5-2 เก็บสามแต้มพร้อมนำผู้นำฝูงถัดไปมี 68 คะแนนทิ้งชั้น 2 แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง 14 คะแนน ส่วน “นักบุญ” อยู่ที่ 14 มีอยู่เพียงแค่ 33 คะแนน มากยิ่งกว่าโซนตกชั้นเพียงแค่ 7 คะแนน
