จิตใจยอดนักสู้ แม้สภาพจิตใจจะย่ำแย่และหงุดหงิด แต่ตัวยังไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
จิตใจยอดนักสู้ สำหรับกรณีของโรนัล โด้เขามีอาการเจ็บ หน้าเข่าทั้งสองข้าง มาตั้งแต่ หลังจบฟุตบอลโลก
ปี 1998 เพียงแต่ ยังไม่แสดง รุนแรงจน น่ากังวล นิลตัน เปโตรเน่ นักกายภาพบำบัด ประจำสโมสร อินเตอร์
มิลาน ยังเสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาร์ 9 มีปัญหาภาวะกระดูกต้นขาผิดรูป ทำให้ข้อเข่าบริเวณลูกสะบ้าไม่มั่นคง
กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นรอบ ๆ ต้องทำงานอย่างหนักกว่าปกติ
อันเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำ ให้เอ็นลูกสะบ้ามีอาการบาดเจ็บ และฉีกขาดในที่สุดอีกปัจจัย หนึ่งที่น่าจะมีส่วนเกี่ยว
ข้อง ตามคำบอกเล่าของ นักฟุตบอลบราซิลหลายราย คือ ผู้เล่นจำนวนไม่น้อย เคยผ่านการฉีดยาสเตียรอยด์
เพื่อรักษาอาการบาด เจ็บเส้นเอ็นมาแล้วทั้งสิ้น ยาสเตียรอยด์ เป็นชื่อยาที่น่ากลัวสำหรับ คนทั่วไปและนักกีฬา
พอสมควร
เนื่องจากทุกคนกังวล ในผลข้างเคียงจากยา อย่างไรก็ตาม ในหมู่นักกีฬา การฉีดยาสเตียรอยด์ เข้าที่บริเวณ
รอบ ๆ เส้นเอ็นที่อักเสบนั้น ออกฤทธิ์ช่วยลดอาการ อักเสบได้ค่อนข้างดี เห็นผลไว แต่หากเลือกใช้อย่าง
ไม่เหมาะสม รวมทั้งการฉีดยาเข้า ไปบริเวณเส้นเอ็น ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ทำให้เส้น
เอ็นเสียคุณภาพและความแข็งแรง นำมาซึ่งภาวะเส้นเอ็น ฉีกขาดได้
นอกจากนี้ ก่อนเจอกับอาการ บาดเจ็บหนักโรนัล โด้เป็นคนที่มีรูปร่างหนา เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้ไม่ได้อวบ
อ้วนเท่าตอนที่ค้าแข้งให้ เรอัล มาดริด หรือในช่วงบั้นปลายอาชีพ บวกกับสไตล์การเล่น ที่ใช้ความรวดเร็ว
แข็งแกร่ง จังหวะกระชากแล้วหยุด เปลี่ยนทิศทางกระทันหัน จังหวะสับขาหลอกแล้ว เปลี่ยนจังหวะอย่างฉับ
พลัน สิ่งเหล่านี้
วนเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เกิด อาการบาดเจ็บเอ็นสะบ่าเข่า ได้ทั้งสิ้นการผ่าน อาการบาดเจ็บรุนแรง แต่กลับมา
เล่นในระดับสูงได้ของโรนัล โด้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เขามีจิตใจความเป็น นักสู้มากขนาดไหนโรนัล โด้
มีความตั้งใจทำ กายภาพบำบัด เช้า บ่าย และเย็นทุกครั้ง เขาพยายามฟื้นฟู ร่างกายอย่างหนัก ละ 9-10
ชั่วโมง แม้การบริหารเข่า งอเข่าจะเต็มไปด้วย ความเจ็บปวด และยากลำบาก ดูบอลสด
แต่เขาไม่เคยหมดความหวังเลย สุดท้ายหลังการบาดเจ็บ
และการผ่าตัดเอ็นลูกสะบ้าเข่าโรนัล โด้ใช้เวลา 15 เดือน จึงสามารถกลับมาเล่น ฟุตบอลที่เขารักได้อีก
ครั้งโรนัล โด้กลับมาลงสนามได้ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2001 แต่ยอดดาวยิงชาวบราซิล มีเวลาพิสูจน์ตัว
เองไม่มากนัก ก่อนทัวร์นาเมนต์ยิ่งใหญ่ ที่สุดในโลกอย่าง ฟุตบอลโลก จะเริ่มขึ้นในกลางปี 2002 เนื่อง
จาก เขาประสบกับอาการ บาดเจ็บกล้ามเนื้อ อยู่หลายครั้ง ถึงขนาดที จิตใจยอดนักสู้
จำเป็นต้องกลับไปพัก ฟื้นที่ประเทศบราซิล อยู่ท่ามกลางครอบครัว และเพื่อนฝูงที่คอย ให้กำลังใจ เสริม
สร้างพลังบวกให้โรนัล โด้สู้ ในที่สุด เขาก็ได้เป็น หนึ่งในขุมกำลัง ทีมชาติบราซิล ชุดลุยบอลโลก ที่
ประเทศญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ แม้เพิ่งลงเล่นไปแค่ 10 นัดเท่านั้น หลังการกลับมา นัดแรกในฟุตบอล
โลก 2002 บราซิล เจอกับ ตุรกี ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งโรนัล โด้ทำได้ 1 ประตู
ช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่ง 2-1 ประตู หลังจากการแข่งขันนัดนั้น 1 เขาเปิดเผยว่า ร่างกาย
ตนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากไม่ได้ลงเล่นเต็มเกมมานาน และถูกหมายตาจากกองหลัง เป็นเป้า
ให้โดนอัด โดนปะทะอยู่ตลอด ทั้งเกมเขายังเผยอีกว่า อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ต้นขาขวา ทำให้ไม่
สามารถยิงบอล ได้อย่างปกติโร นัลโด้ จิตใจยอดนักสู้
ตัดสินใจนำเอาเทคนิค การยิงบอลแบบจิ้ม บอลด้วยปลายเท้า ที่เรามักไม่ค่อยได้เห็น การทำสกอร์ด้วย
การยิงแบบนี้สักเท่าไหร่ ในกีฬาฟุตบอลสนามใหญ่ อาจจะเพราะการควบคุม ทิศทางบอลทำได้ยาก
และการจะยิงให้มีน้ำหนักที่ ดีก็ยิ่งยากเข้าไป ใหญ่และมันก็ได้ผล “บราซิล” คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5
ได้สำเร็จ โดยโร นัลโด้ถือเป็นพระเอกของงาน เขายิง 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ จิตใจยอดนักสู้
พร้อมกับคว้ารางวัล รองเท้าทองคำ ซัลโวไป 8 ประตู และก้าวไปคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมของโลก
ประจำปี 2002 ทั้งที่เขามีอาการ บาดเจ็บรบกวน มาตั้งแต่จบเกมนัดแรก ของทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก
หลังจากฟุตบอลโลก 2002 เขาย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด สร้างตำนาน “กาลาคติกอส” ยุคที่รวม
ดาราโลกไว้มากมายในทีม โรนัล โด้ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม ยิงประตูได้มากมาย
แม้สไตล์การเล่นของเขา จะแตกต่างจากก่อนมีอาการ บาดเจ็บหนักอย่างเห็นได้ชัด จังหวะกระชากบอล
ด้วยความรวดเร็ว คล่องแคล่วหายไป แต่ความเฉียบคม ยังคงเยี่ยมยอด จำต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการ
เล่นตามสภาพร่างกาย นั่นจึงทำให้ เขาสามารถยืนระยะเล่น ฟุตบอลในระดับสูงได้จนถึงวัย 34 ปี ยิ่ง
ไปกว่านั้น จิตใจยอดนักสู้
เคยได้รับบาดเจ็บเอ็นลูก สะบ้าฉีกขาดอีกครั้งในปี 2008 ขณะค้าแข้งอยู่กับทีม เอซี มิลาน นับเป็นครั้ง
ที่สามที่เขาได้รับ บาดเจ็บที่บริเวณนี้ แตกต่างตรงที่ คราวนี้เป็นการบาด เจ็บหัวเข่าซ้าย ไม่ใช่ข้างขวา
เหมือนเดิม คว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ | ข่าวบอลล่าสุด