ถ้วยเก่าแก่ที่สุด “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง ได้โอกาสที่กำลังจะได้แก้ตัวกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า
ถ้วยเก่าแก่ที่สุด ภายหลังที่โดนต้อน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนต้นฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์ 2-7 โดยพวกเขามีคิวบุกเยี่ยมถิ่นวิลล่า พาร์ค ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 3 วันศุกร์ที่ 8 เดือนมกราคมนี้่ อย่างไรก็แล้วแต่ แมตช์นี้มีความน่าจะเป็นสูงที่ เจอร์เก้น คล็อปป์กุนซือ บางครั้ง
อาจจะเลือกใช้ระบบโรเตชั่น เพื่อนักฟุตบอลตัวหลัก ได้พักร่างกาย เพราะเหตุว่าพวกเขามีศึกใหญ่ รออยู่ในช่วงสุดสัปดาห์หน้า ซึ่งก็คือการต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม “แดงเดือด” ที่แอนฟิลด์ สำหรับแมตช์นี้ จะต้องพูดว่าบางครั้งอาจจะ เป็นช่องทางสำหรับการล้างแค้น
“สิงห์ผงาด” ที่เคยทำให้เจ็บช้ำระกำใจ แต่ว่าในเวลาเดียวกัน ด้วยฟอร์มการเล่นเวลานี้ มีความน่าจะเป็นไปได้ที่ “เดอะ เร้ดส์” จะโดนย้ำโกรธแค้น สำหรับเกมเอฟเอคัพ รอบ 3 จัดว่าสื่อความหมายกับ หงส์แดง มากมาย ๆ เพราะเหตุว่านี่เป็นการแข่งขันชิงชัย ข่าวบอลล่าสุด
ฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ ที่สุดในโลก แล้วก็เป็นรายการที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ยังไม่เคยสัมผัส นับจากที่เข้ามากุมบังเหียน “ลิเวอร์พูล” เมื่อปี 2015 แล้วก็พวกเขาไม่ได้แชมป์ รายการนี้มานาน 16 ปีแล้ว แต่ ด้วยเหตุผลที่นักฟุตบอลภายในทีม จำเป็นต้องกรำศึกหนักมาหลายนัดติดต่อกัน
ถ้วยเก่าแก่ที่สุด โรเตชั่นจำเป็นต้องมา เพื่อความสดใหม่ของนักฟุตบอล
แน่นอนว่าคล็อปป์ น่าจะเลือก มอบโอกาสตัวสำรอง และก็นักฟุตบอลที่เพิ่งจะหายจากการได้รับบาดเจ็บลงสู่สนามในแมตช์นี้ เนื่องจากถือได้ว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับในการทำศึกทำสงคราม “เร้ด วอร์” ต่อกร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์หน้าด้วย แน่นอนว่า อลีสซง เบ็คเกอร์
ถ้วยเก่าแก่ที่สุด คงจะจะต้องหลบทางให้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าเสา ส่วนแบ็กโฟร์มีความน่าจะเป็นไปได้สูงที่ คล็อปป์จะพัก ฟาบินโญ่ ด้วยเหตุว่าลงเล่นเกือบทุกเกมในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา แล้วก็เปิดโอกาส ริส วิลเลี่ยมส์ กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ยืนเป็นคู่กองหลังตัวกลาง ดูบอลสด
ในขณะที่ ฟูลแบ็กคงถึงเวลาของ เนโก วิลเลี่ยมส์ กับ เจมส์ มิลเนอร์ ลงไปในสนาม อย่างไรก็ดี ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน น่าจะใช้งาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า เพื่อช่องทางนักฟุตบอลได้เรียกฟอร์มกลับมาภายหลังจากพักรักษาตัวไปนาน โดยในเกมปัจจุบันที่แพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน
สตาร์ชาวสแปนิช ค่อย ๆ ทำผลงานได้อย่างสะดุดตา ซึ่งถ้าเขาได้ลงเล่นโดยตลอด คงจะทำให้ฟอร์มเก่งราวกับสมัยเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค คืนกลับมา ส่วนแนวรุก คล็อปป์คงจะเลือกพัก 3 ผสาน “หินเหล็กไฟ” โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ รวมทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เพื่อที่พวกเขา
ได้กลับมารีเฟรซฟอร์ม ภายหลังจาก 3 เกมก่อนหน้าที่ผ่านมาผลงานขาดแคลนอย่างยิ่ง โดยงานนี้ ทาคุมิ ไม่นามิโนะ, เซอร์ดาน ชากีปรี่ แล้วก็ ดิว็อค โอริกี้ จะได้รับช่องทางพิสูจน์ตนเองอีกรอบ
เอฟเอคัพอาถรรพ์ที่ หงส์แดง จะต้องผ่านไปให้ได้
ถึงแม้ว่า คล็อปป์จะสามารถนำ หงส์แดง ยุติ 30 ปีที่แห่งการรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดได้ก็ตาม แม้กระนั้นสำหรับผลงานใน เกมเอฟเอคัพ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช ยังไม่สามารถที่จะนำผลสำเร็จในรายการนี้กลับมาประดับประดาที่ตู้โชว์ที่สนามแอนฟิลด์ ได้เลย ภายหลังที่รั้งท้ายสุดที่
พวกเขาทำได้จะต้องย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2005/06 จะต้องสารภาพว่า “ลิเวอร์พูล” มีสถิติที่ไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่เพราะเหตุว่าในตอนหลายปีล่วงมาแล้วพวกเขาจะต้องเจอกับความหมดหวัง ไปไม่ถึงฝั่งฝันซะครั้ง เนื่องจากโดยส่วนใหญ่รวมทั้งชอบที่จะ เปิดโอกาสดาวรุ่ง
โบกมืออำลาตั้งแต่ วลารุ่งสาง จนกระทั่งทำให้แฟนบอลหงส์แดง คร่ำครวญหาต้องการจะเห็นทีมไปถึงเป้าหมายในรายการนี้อีกครั้ง ในยุคของคล็อปป์ บอกเลยว่าทีมไม่เคยไปได้ไกลเกินรอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมในที่สุด โดยพวกเขาจะต้องไม่เข้ารอบในรอบ 3 ครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น
ถ้วยเก่าแก่ที่สุด ก็ไม่เข้ารอบ 4 สามครั้ง ส่วนเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานับว่าไปได้ไกลสุดถึงรอบ 5 แต่ว่าก็จำต้องเจ็บช้ำระกำใจเมื่อโดน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เขี่ยตกด้วยสกอร์ 0-2 ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องห่วงเลยว่า คล็อปป์จะเอาจริงเอาจังกันถ้วยใบนี้ไหม