ยังเดินหน้า นี่คือประเด็นน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมนัดล่าสุดนี้

ยังเดินหน้า จัดการเก็บตกกับเกร็ดเล็กของทีมที่จัดการไปแล้ว และยังคงมีโอกาสอยู่บนสนามต่อ

1. ธิอาโก้ ยกระดับแดนกลาง ลิเวอร์พูล

ธิอาโก้ อัลคันทารา ประเดิมมีชื่อบนม้านั่งสำรองในทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทันทีแม้ว่าจะเพิ่งจะย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนที่เจ้าตัว จะถูกส่งลงไปในสนาม เมื่อจบพักครึ่งแทนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันกลุ่มที่มีอาการเจ็บ

แม้จำนวน ตัวผู้เล่นของ หงส์แดง ที่มากกว่า อาจเป็นต้นเหตุหนึ่ง ที่ขับจุดเด่นของ ติอาโก้ ในแดนกึ่งกลาง ให้มองเห็นได้ชัดเพิ่มขึ้น แต่ไม่บางที อาจปฎิเสธได้เลยว่า คลาสของมิดฟิลด์กลุ่มชาติ ประเทศสเปน ได้สร้างความไม่เหมือน ให้กับกลุ่มทันตาเห็น บอลจากเท้าของ ติอาโก้ ในแนวลึก ทำให้ผู้เล่น ในแดนบน สบโอกาส วิ่งหาพื้นที่เข้าทำเป็นอย่างสม่ำเสมอ

โดยสถิติเมื่อจบเกม ธิอาโก้ ยังเปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลที่ผ่านบอลสำเร็จได้เหนือกว่าแข้ง เดอะบลูส์ ใครๆและยังเป็นแข้งที่ผ่านบอลสำเร็จสูงสุดตลอดกาลจากการลงเล่นเพียง 45 นาที นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในซีซัน 2003/04 เป็นต้นมา อาจเพิ่มแรงได้

ยังเดินหน้า

2. หรือตำแหน่งของ เฮนเดอร์สัน จะสั่นคลอน

ตลอดจากประเด็นข้างต้น การเปลี่ยนตัวตำแหน่งต่อตำแหน่งระหว่าง เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ ในหน้าที่เดียวกันก็เลยทำให้เราอดคาดการณ์ไม่ได้ว่าบทบาทของกัปตัน เฮนโด้ จะถูกลดลงไปภายหลังจากนี้เมื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีอีกหนึ่งทรัพยากรที่มีศักยภาพมากยิ่งกว่า

ท่วงทีและวิสัยทัศน์ของ ติอาโก้ เข้าคู่ได้เป็นอย่างดีเมื่อเจอกับคู่แข่งที่แพ็คเกมรับลึกอย่างที่ เร้ดแมชีน ดวลกับ สิงห์บลู 10 คนในครึ่งเวลาข้างหลัง นั่นทำให้พื้นที่แดนกลางมีช่องว่างมากพอให้มิดฟิลด์ กระทิงดุ จัดแจงงัดจุดเด่นของตนเองออกมาโจมตีเกมรับของฝ่ายตรงข้าม

แต่ถ้าหากพิจารณาลึกลงไป การมีอยู่ของ เฮนเดอร์สัน กับจุดแข็งในการไล่บดบี้คู่แข่งแล้วก็การเล่นเกมรับอาจเหมาะมากกว่าเมื่อกลุ่มจำต้องดวลกับคู่แข่งที่พร้อมจะเปิดเกมรุกแลก

3. ฟาบินโญ-ฟาน ไดค์ เข้าคู่

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีปริศนาถึงช่องทางและชั้นเชิงของนักเตะในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางหลังจากที่ เดยัน ลอฟเรน ย้ายออกจากทีมกระทั่งทำให้ ลิเวอร์พูล เหลือแค่เพียงแต่ โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป เป็นโอกาสในการจับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่เกมนี้ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่จำเป็นต้องซื้อแข้งใหม่ในตำแหน่งดังกล่าวเสริมกองทัพอะไรเมื่อมีหน้าแข้งสารพัดประโยชน์อย่าง ฟาบินโญ พร้อมที่จะรับบทบาทคู่ขา VvD

ตัวรุกกลุ่มชาติ บราซิล รับบทบาท สต็อปเปอร์เข้าชนแนวรุก เป็นหน่วยแรกโดยมี ฟาน ไดค์ ประคองสถิติหลังเกมชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาทำได้ดี กับหน้าที่ดังกล่าว ด้วยจำนวนเป็นลำแข้ง หงส์แดง ที่เอาชนะสำหรับเพื่อการเข้าปะทะได้มากกที่สุด 4 ครั้งจากความพากเพียรทั้งปวง 7 ครั้ง รวมทั้งยังสามารถตัดบอลได้มากที่สุดในสนามที่ปริมาณ 4 ครั้ง

 

4. เกมรุกริมเส้นที่ขาดหายไป

วันนี้เป็นอีกหนึ่งนัดสำหรับเกมรุกริมเส้นที่เคยเป็นทีเด็ดของ สิงโตน้ำเงินคราม มาตลอดในตอนฤดูกาลที่ผ่านมา กลับเงียบสนิทตลอด 90 นาที นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แม้ในครึ่งแรกตัวผู้เล่นจะยังเท่าเทียมกัน แต่พวกเขาเกือบจะหาจังหวะเข้าทำและจบสกอร์มิได้เลย ข่าวบอลล่าสุด

ซึ่ง 2 นัดหมายก่อนหน้าที่ผ่านมา แฟรงค์ แลมพาร์ด เลือกใช้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เมสัน เมานท์ รวมทั้ง ติเตียนโม แวร์เนอร์ เป็น 3 ผสานในเกมรุกรวมทั้งสลับกันไปเล่นเป็นตัวขอบขอบเส้น แต่ว่าก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่อาจจะตอบปัญหาราวกับยุคที่ยังเป็น พูลิซิช แล้วก็ วิลเลียน ยืนทำงานได้

ยังเดินหน้า

5. ก็องเต้ คือ “กองกลางตัวรับ”

ตั้งแต่ที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีม นายใหญ่ตำนานสมาพันธ์รายนี้ ยังคงยืนยันว่า จะใช้งาน เอ็นโกโล ก็องเต้ ในฐานะ Box to Box มิดฟิลด์ ซึ่งนั่นหมายความว่า ก็องเต้ จะต้องมีส่วนร่วมกับการเล่นเกมรุก

รวมทั้งจนถึงตอนนี้ เขาก็พิสูจน์ให้เห็น ไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า ความขยันและกำลัง การวิ่งไล่ ไม่มีหมดของเขานั้น มันไม่สามารถ ที่จะตอบปัญหา ในการประดิษฐ์เกมบุก ให้กับทีมได้

บ่อยครั้งที่วันนี้ เขาได้โอกาสที่ดี ในการทำเกม ในแดนหน้า  แต่ว่าก็ติดขัดทำพลาด ไปเสียหมด เวลาที่เกมรับเจ้าตัวกลับสะดุดตาสำหรับการไล่กวดสร้างความปั่นป่วนให้แนวรุกของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจะอิดโรยตลอด 90 นาทีในเกมวันนี้ ดูบอลสด