เลิกกลัวการเปลี่ยนแปลง สร้างคนสร้างตำนาน
เลิกกลัวการเปลี่ยนแปลง นานเป็น 100 ปีที่ สโมสรลิเวอร์ พูล เชื่อใจคนท้อง ถิ่นและคน บ้านเดียวกันพวก
เขาให้โอกาส เชื่อมั่นและมอบ งานสำคัญให้กับชาว สเกาเซอร์ รวมถึงคนใน สโมสรภายใต้นิยามว่า “บูทรูม”
เสมอ เพราะนี่คือขนบที่เป็นดั่งราก เหง้าของสโมสรมาช้านาน และพวกเขาก็ประสบ ความสำเร็จในฐานะทีม
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน อังกฤษมาโดยตลอดด้วย วิถีนั้นย้อนกันไปให้เห็นภาพชัดคือ ๆ ยุค 90
ถือเป็นช่วงเวลาที่ลิ เวอร์พูลตกต่ำและรอคอย ความยิ่งใหญ่ให้กลับมา นักเตะอย่างอย่าง จอห์น บาร์นส์
และ เอียน รัช แก่ตัวลงไป ก่อนที่พวกเขาจะถูก ทดแทนด้วยกลุ่มนักเตะรุ่น “สไปซ์ บอยส์” นำโดย สตีฟ
แม็คมานามาน, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ เป็นต้น ทว่าภายใต้การทำทีมของ รอย อีแวนส์
สิ่งที่แฟนบอลอยาก จะเห็นกลับไม่เกิดขึ้น ลิเวอร์ พูลถูกเรียกว่า “โรลเลอร์ โคลสเตอร์ ทีม”
นั่นคือทีมที่บทจะขึ้นสุด ก็เล่นดีแบบไม่มีใครหยุดได้ และบทจะลงสุด ๆ ก็พร้อมจะแพ้ได้แม้กระทั่งทีมท้าย
ตาราง ยากที่จะได้แชมป์ อะไรสักอย่างปี 1998 สโมสรเชื่อว่าถึงเวลา อันสมควร พวกเขาตัดสินใจใช้งาน
โค้ชคนคู่ โดยการเอา เชราร์ อุลลิเยร์ มาทำงานร่วมกับ รอย อีแวนส์ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อออกหน้านี้ ทุกคน
รู้ดีว่า อีแวนส์ กำลังจะหมดหน้าที่นาย ใหญ่ในเวลาอันใกล้ ซึ่งที่สุดแล้วทั้ง 2 คน
ก็ได้ทำงานร่วมกันราว 4-5 เดือนเท่านั้น สุดท้าย อีแวนส์ ก็ยอมแพ้ให้กับความอึดอัดและลาออกไปในท้าย
ที่สุด อย่างไรก็ตามเมื่อโลก ฟุตบอลเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุด เกมลูกหนังถูกยกไปอีกระดับในยุค 90
ช่วงที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เลือกให้โอกาสเหล่านักเตะและ โค้ชต่างชาติเข้ามาสร้างอิทธิพลให้กับแต่ละทีม
ลิเวอร์ พูลก็ต้องยอมรับใน การหมุนของโลกที่พวกเขา ต้องปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายยุค90
นั้นชัดเจนที่สุดแล้ว นักเตะต่างชาติกลายเป็น ผู้สร้างความแตกต่าง
เช่นเดียวกันกับตำแหน่งผู้จัดการทีมที่มีตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดนั่นคือ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส
ที่ก้าวเข้ามาและสามารถสร้าง อาร์เซนอล ให้ก้าวมาเป็น 1 ในทีมที่ต่อกรกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้
อย่างดุเดือดเร้าใจ ก่อนจะไปถึงการคว้าตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง ซึ่งลิเวอร์ พูลต้องการสิ่งนี้เป็น
อย่างมาก เลิกกลัวการเปลี่ยนแปลง
จนพวกเขาอยากจะเริ่ มเปิดใจให้กับชาวต่างชาติ ขึ้นมาบ้างอุลลิเยร์
ขึ้นเป็นนายใหญ่แต่เพียงผู้เดียว และจากนี้คือช่วงเวลาที่เขาจะได้แสดงศักยภาพในตัวเองออกมา กุนซือชาว
ฝรั่งเศสผู้นี้ เคยมีประสบการณ์ทำงานกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในยุค 80 รวมถึงการคุมทีมชาติฝรั่งเศส
ชุดใหญ่ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 1994 ก่อนจะขยับมาทำหน้าที่ประธานฝ่ายเทคนิคของสหพันธ์ฟุตบอล
ฝรั่งเศส เขาใช้เวลากับทีมชาติฝรั่งเศสทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ถึง 10 ปี หน้าที่หลัก ๆ ดูบอลสด
ของเขาเหมือนเป็นทั้งกุนซือและประธานเทคนิคในเวลาเดียวกัน กล่าวคือ อุลลิเยร์ มีวิธีการทำงานแบบมอง
ภาพกว้าง ๆ และมีแนวคิดฟุตบอลแนวคิดในการทำทีมที่ชัดเจน เขาจะเข้ามาทำให้นักเตะลิเวอร์ พูลก้าว
เข้าสู่การเล่นแบบสากล ไม่ติดกับดักกับคำว่า “เครื่องจักรสีแดง” วิ่งบู๊สู้ไม่ถอยเหมือนกับที่กุนซือคนเก่า ๆ
อย่าง แกรม ซูเนสส์ และ รอย อีแวนส์ พยายามจะประยุกต์ตัวตนของแต่ละคนลงในปรัชญานี้
เพื่อทำตามรอยความยิ่งใหญ่เมื่อครั้งอดีตแต่ไม่สำเร็จเหนือสิ่งอื่นใดและท้ายที่สุด เขาไม่ลืมขนบบางข้อของ
สโมสรที่ว่าด้วยการให้โอกาสนักเตะท้องถิ่น เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดนนี่ เมอร์ฟี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ ไมเคิล
โอเว่น เหล่านี้คือแกนหลักในยุคของ อุลลิเยร์ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนของ เจอร์ราร์ด นั้น อุลลิเยร์
พาตัวเขามาจากทีมเยาวชน ให้โอกาสอย่างสม่ำเสมอ เลิกกลัวการเปลี่ยนแปลง
แม้จะมีข้อผิดพลาดบ่อย ๆ ในตอนแรก ทั้งการโดนใบแดงเป็นประจำ ตลอดจนสไตล์การเล่นที่เหมือนกับ
เป็นลูกหาบเสียมากกว่า จนกระทั่ง เจอร์ราร์ด กลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้น ก้าวสู่การเป็นจอมทัพ และได้รับ
ตำแหน่งกัปตันทีมไปในท้ายที่สุด อย่างที่หลายคนรู้กันลิเวอร์ พูลเลิกกลัวการเปลี่ยนแปลง
ชุดนั้นกลับมาประสบความสำเร็จด้วย การคว้าทริปเปิลแชมป์ ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูฟ่า คัพแม้
จะไม่ใช่ถ้วย ที่ใหญ่ทั้งหมด แต่สำหรับแฟนลิ เวอร์พูลพวกเขาได้เห็นถึงสัญญาณ ดีในรอบหลายปี และ
เชื่อมั่นในแนวทางของ อุลลิเยร์ มากขึ้น ปราการหลังตัวเก๋า | ข่าวบอลล่าสุด