เลี้ยงจี้ล็อคหนี จอห์น สโตนส์ และแฟร์นันดินโญ่ ซัดประตูพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เลี้ยงจี้ล็อคหนี บุกคว้าชัยเหนือคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศได้อีกสมัย โดยจะพบกับ สเปอร์ส ในวันที่ 25 เมษายน นี้ เพื่อลุ้นแชมป์รายการนี้ 4 ปีติดต่อกัน ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ฟุตบอล คาราบาว คัพ

รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังทำศึกดาร์บี้แมตช์รับการมาเยือนของเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งนับเป็นการเจอกันในรอบนี้สองปีติด ทว่าฤดูกาลนี้แข่งขันจบในนัดเดียว โดยผู้ชนะจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศพบกับ สเปอร์ส

ที่ไปยืนรออยู่แล้วในวันที่ 25 เมษายน นี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมนี้เปลี่ยนสองตำแหน่งใช้ ดีน เฮนเดอร์สัน และได้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หายเจ็บกลับมายืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ส่วนแนวรุกใช้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นจอมทัพปั้นเกมร่วมกับ ปอล ป็อกบา โดยมีคู่หน้าเป็น ข่าวบอลล่าสุด

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และมาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปวดหัวกับสภาพทีมที่โดยพิษโควิด-19เล่นงาน แถมล่าสุดก่อนแข่งเจอผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชติดเพิ่มอีก 3 คน กระนั้นยังยึดแข้งชุดที่บุกไปเอาชนะ เชลซี ในเกมลีกล่าสุดเป็นแกนหลัก ริยาด มาห์เรซ กลับมาลงเป็นตัวจริงปั้นเกม

ร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนหน้าเป้า เขี่ยบอลมาไม่ถึง 3 นาที แค่โอกาสแรกของ “ผีแดง”

เป็นการตอกฝาโลง

เลี้ยงจี้ล็อคหนี เช่นเดียวกับ “เรือใบสีฟ้า” หลังอีกสองนาทีถัดมา

อิลคาย กุนโดกัน ส่งบอลผ่าน ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไปแล้วแต่ มาร์ติน แอตกินสัน เป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อน นาทีที่ 9 “ผีแดง” หวิดขึ้นนำอีกครั้ง หลังเจ้าถิ่นตัดบอลได้มาถึง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ป้ายคืนให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วิ่งมาปั่นด้วยขวากำลังจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่ แซ็ค สเตฟเฟ่น ยังเหินปัด

บอลออกไป นาที 13 ลูกทีมของ เป๊ป ตอบโต้มาแบบทันควันและเกือบจะได้ประตูขึ้นนำเหมือนกัน หลัง ราฮีม สเตอร์ลิง ควบบอลจี้เข้าหน้ากรอบก่อนจ่ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมซัดด้วยขวา บอลพุ่งแรงเป็นจรวดแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย นาที 24 แมนฯซิตี้ ชวดได้ประตูอีกครั้ง และคราวนี้

ฟิล โฟเด้น ควบบอลเกือบครึ่งสนามจากซ้ายเข้าไปยิงลอดขา ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าของ โฟเด้น ก่อนชวดได้ประตูนำอีกหน อีกนาทีถัดมา เป็นโอกาสเสียวของเจ้าถิ่นบ้าง จากจังหวะที่ เฟร็ด แทงออกขวาให้ แรชฟอร์ด เลี้ยงจี้ล็อคหนี เป็นการตอกฝาโลง

อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก่อนซัดไปติดเข่า รูเบน ดิอาส บอลเล่นกันสนุก แต่ก็ยังมีความระมัดระวังทั้งสองฝ่าย แม้ทีมเยือนจะครองได้เหนือกว่า แต่จังหวะบุกของ “ผีแดง” ก็สวนกลับมาได้ลุ้นตลอด นาที 34 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ลองกดด้วยขวานอกกรอบบ้างแต่ก็ยิงหลุดกรอบออกไป

ดูบอลสด

จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 0-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 50 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ หลังลูกฟรีคิกของแมนฯซิตี้เปิดมาแฉลบ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ก่อนบอลเลยมาเสาไกลโดนเข่า จอห์น สโตนส์ เข้าไป แม้ผู้ตัดสินจะเช็กวีเออาร์แต่ก็ยืนยันให้ประตู นาที 57 ทีมเยือนตอบโต้มาอย่างรวดเร็ว อิลคาย กุนโดกัน

พาบอลขึ้นมาแล้วจ่ายออกซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ตักบอลเข้ามาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง โขกย้อนไปเสาแรก บอลกำลังจะย้อยเข้าอยู่แล้วแต่ยังโดน ดีน เฮนเดอร์สัน พุ่งปัดออกไปหวุดหวิด บอลสวนกลับของ “ซิตี้” ยังวูบวาบหน้ากลัว นาที 62 เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง กุนโดกัน แทงอีกครั้งให้ ดูบอลสด

ริยาด มาห์เรซ ซัดนอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ยังไปติดเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน ปัดออกหลัง นาที 65 “ผีแดง” ได้ลุ้นบ้างหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงนอกกรอบแต่บอลตกพื้นก่อนพุ่งไปเข้ามือ แซ็ค สเตฟเฟ่น นาที 83 สกอร์ของ แมนฯซิตี้ นำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะลูกเตะมุมของ เควิน เดอ บรอยน์

เปิดมาเสาแรกโดน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล สกัดแล้วไปเข้าหัว วาน-บิสซาก้า โขกทิ้งไปเด็ดขาดไปเข้าทาง แฟร์นันดินโญ่ ยิงสวยเสาแรกเข้าไปหมดสิทธิ์ที่ ดีน เฮนเดอร์สัน จะป้องกัน จบเกม แมนฯยูไนเต็ด แพ้คาบ้านให้ แมนฯซิตี้ 0-2 ส่งให้ “เรือใบสีฟ้า” ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์อีกสมัย พบกับ

สเปอร์ส ในรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 25 เมษายน นี้ ที่สนาม เวมบลี่ย์