กลับเส้นทางแห่งชัยชนะ ตัดเกรดแข้งแมนยูเกมบุกต้อนนิวคาสเซิ่ล

กลับเส้นทางแห่งชัยชนะ หลังบุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

กลับเส้นทางแห่งชัยชนะ ลูกทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มารัวรวดเดียวสามตุงในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้าย ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ถึงแม้เสีย 1 ประตูจากโอว์นโกล แม้กระนั้น โดยรวม นับว่า เป็นวัน ที่น่าประทับใจ มากมายๆ สำหรับ นายประตู ชาวสแปนิช โดยยิ่งไปกว่านั้น จังหวะพุ่งเซฟลูกยิง ระยะเผาขนของ คัลลั่ม วิลสัน ตอนครึ่งหลัง ซึ่งนับว่า เป็นชอตเซฟระดับ เวิลด์คลาส อย่างยิ่งจริงๆ

จริงๆแล้ว มิได้ส่งผลงาน ที่เด่นอะไรมากมาย แถมโดน อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง โจมตี อยู่หลายครั้งด้วย จนถึงมาถึงนาทีที่ 90 ที่เจ้าตัว เพิ่มเกมรุก กลับเส้นทางแห่งชัยชนะ ขึ้นมา กระทุ้งประตู 3-1 อย่างเด็ดขาด ซึ่งนับว่า เป็นประตูแรกของ ตัวรุกวัย 22 ปี ภายใต้ยูนิฟอร์ม “ปีศาจแดง” ด้วย หลังจากที่โดนถาม

ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็คุมสถานการณ์ได้ดี และไร้ข้อผิดพลาด

กลับมา มีฟอร์ม ที่น่าประทับใจอีกรอบ สำหรับกัปตันกลุ่ม เพราะนอกจาก เล่นเกมยอมรับ ได้หนักแน่น โดยยิ่งไปกว่านั้น การจัดการ กับลูกโด่งแล้ว ยังเป็น คนกระแทก ทำประตูช่วยกลุ่ม ไล่ตีเสมอ 1-1 ด้วย

สกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตนเองตั้งแต่นาทีที่ 2 แต่จากนั้น ชอว์ ก็กลับมาเล่นเกมยอมรับได้อดทน แถมมีจังหวะสร้างช่องทางให้สหายลุ้นจบสกอร์ด้วย

ฟอร์มอาจไม่ได้โดดเด่นเป็นสง่า แต่ช่วยทีมได้ไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นเกมรับหรือรุก

ทำได้ดีในการช่วยตัดบอลก่อนที่จะไปถึงแผงหลัง แต่เรื่องเกมรุกยังคงต้องปรับปรุงต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการยิงประตู

เล่นได้เด่นทีเดียวสำหรับแข้งจอมเก๋าเลือดวัวกระทิงดุวัย 32 ปี โดยเฉพาะตอนครึ่งแรก เพราะนอกจากทำเกมรุกได้ไหลลื่นแล้ว ยังมี 1 แอสซิสต์ที่เปิดลูกเตะมุมให้ แม็กไกวร์ โหม่งทำคะแนนตีเสมอ 1-1

เกือบมีเกมที่น่าผิดหวังอยู่แล้วสำหรับจอมบุกเลือดฝอยทอง ที่ยิงจุดโทษไม่เข้ามาเป็นทีแรกในการเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด (จาก 11 ครั้ง) แต่กลายเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่ช่วยกลุ่มคว้าชัย โดยหลุดเข้าไปทำประตูกลับนำ 2-1 ในนาทีที่ 86 ก่อนที่จะวางบอลยาวให้ แรชฟอร์ด กดประตูจบท้ายในนาทีที่ 90+5

จริงๆ แล้วผลงานโดยรวมไม่ได้เลวร้าย ช่วยเคลื่อนเกมรุกได้ดี แต่มักจะมาตายในจังหวะสุดท้าย ข่าวบอลล่าสุด

เป็นคนพาทีมคว้าแชมป์อย่างแท้จริง โดยมาโชว์ทีเด็ดช่วงท้ายเกมที่แอสซิสต์ให้ บรูโน่ และก็ วาน-บิสซาก้า ทำคนละประตู ก่อนยิงจบท้ายเองแบบหล่อๆเป็นประตู 4-1 ในช่วงทดเวลาเจ็บ ยิ่งกว่านั้นยังเรียกจุดโทษให้กลุ่มได้ด้วย (แม้กระนั้น บรูโน่ ยิงไม่เข้า)

 

สำรองที่ได้ลงเล่น