บอลท้องถิ่น นักการเมืองมีส่วนสำคัญมาก ที่ทำให้ลีกภูมิภาคเป็นที่นิยมขึ้นมาในตอนหนึ่ง 

บอลท้องถิ่น เนื่องจากว่าสาเหตุหลายประเภทของทั้งยังบอลแล้วก็การบ้านการเมืองในเมื่อ 10 ปีกลาย เอื้อให้นักการเมืองเขตแดนได้ทำทีมบอล หากพวกเรามองคนทำทีมฟุตบอลระดับรากต้นหญ้าในตอนนี้

จะพบว่ามีปริมาณนักการเมืองแคว้นน้อยกว่าแต่ก่อนมากมาย บางบุคคลเลิกทำ มอบสิทธิ์แม้กระทั่งคนอื่นๆ หรือยุบกลุ่มไปเลยก็มี ฟุตบอลลีกภูมิภาค หรือชื่ออย่างเป็นทางการ “ไทยลีก 3”

กับการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นภาพสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แยกกันไม่ขาด ระหว่างกีฬากับการบ้านการเมืองไทย ในสมัยก่อนนักการเมืองผู้กุมอำนาจในหลายจังหวัด ได้มีหน้าที่สำคัญ ต่อการผลิตกระแสที่นิยมให้กับลีกภูมิภาค มีกระแสมีชีวิตชีวาในภูมิภาคต่างๆเช่นเดียวกับลีกสูงสุด

แม้กระนั้น ไม่กี่ปีให้หลัง กำเนิดการเปลี่ยนแปลงทั้งยังในเวทีลูกหนัง แล้วก็การบ้านการเมือง การเลือกตั้งเขตแดนที่หายไป บวกกับองค์ประกอบบอลไทยที่แปรไป ทำให้ความชื่นชอบของบอลลีกด้านล่างเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยจากลีกที่สีสันบอลไทย สู่ลีกที่เหงาหงอยไม่มีผู้แลเหลียว

ไม่ค่อยมีข่าวสารสาวพรีเซนเทชั่น แล้วก็การถ่ายทอดสดโดยสื่อมวลชน แต่ว่าในช่วงปลายปี การเลือกตั้งเขตแดนกำลังจะกลับมาอีกที ในวันที่ 20 เดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ แต่ว่าการกลับมาของการเลือกตั้งแคว้นคราวนี้ จะช่วยปลุกกระแสของบอลรากหญ้าได้ใช่หรือไม่ ?

สนทนากับ อ.ณัฐกร วิทิตานนท์ คุณครูคณะมนุษยศาสตร์รวมทั้งสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดเชียงใหม่ ผู้เคยศึกษาค้นคว้าความเชื่อมโยงระหว่างการบ้านการเมืองแคว้นกับบอลไทย แล้วก็กำลังติดตามการเลือกตั้งแคว้น ที่กำลังเดินทางมาถึงอย่างเอาจริงเอาจัง

อนาคตของฟุตบอลลีกภูมิภาคกำลังจะเดินหน้าไปในแนวทางใด ในสภาพการณ์ที่นักการเมืองท้องถิ่น กำลังจะกลับมามีหน้าที่อีกรอบ ข้างหลังสนามออกเสียงหนนี้ ข่าวบอลล่าสุด

บอลท้องถิ่น

จุดกำเนิดความข้องเกี่ยวระหว่างนักการเมืองเขตแดนกับบอลรากหญ้าเริ่มจากที่ไหน

บอลท้องถิ่น จุดแปลงสำคัญที่ทำให้นักการเมืองหันมาทำทีมบอล เป็นสถานะการณ์รัฐประหาร พุทธศักราช 2549 ผลพวงที่ตามมาเป็นนักการเมืองบางบุคคลถูกตัดสิทธิ์ด้านการเมืองจากการวิเคราะห์ของศาล ซึ่งนักการเมืองเพียงพอไม่อาจจะจะสร้างผลงานด้านการเมืองได้ เขาก็ต้องหาอันอื่นทำ เพราะเหตุว่าเล่นการเมืองมิได้แล้ว

พวกเขาต้องหาทางใหม่ที่จะพรีเซ็นท์ตนเอง สร้างผลงานให้กับเขตแดน นักการเมืองปริมาณหนึ่ง ก็เลยตกลงใจเปลี่ยนแปลงสนามการบ้านการเมืองของตนมาที่แวดวงกีฬา บางบุคคลก็ไปรับตำแหน่งนายกชมรมกีฬาของจังหวัด บางบุคคลหันมาทำทีมบอลในจังหวัด

บอลเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ใช้ในการโปรโมตตัวนักการเมือง ว่าถึงจะถูกแบนจากเวทีการเมือง แม้กระนั้นพวกเขาก็ยังคงทำบางสิ่งเพื่อแคว้นอยู่ ซึ่งบอลไทยในเวลานั้น ตอบปัญหามากมายกับนักการเมืองกลุ่มนี้ มันก็เลยทำให้นักการเมืองแคว้น แปลงเป็นผู้มีหน้าที่อย่างยิ่งกับบอลรากต้นหญ้าในแต่ก่อน

นักการเมืองมีหน้าที่แค่ไหน กับการช่วยส่งเสริมบอลลีกภูมิภาคบูมขึ้นมาในสมัยนั้น นักการเมืองมีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ลีกภูมิภาคเป็นที่นิยมขึ้นมาในตอนหนึ่ง มันเป็นเพราะเหตุว่าเหตุหลายชนิด ของทั้งยังบอลและก็การบ้านการเมืองขณะนั้น เอื้อให้กับนักการเมืองเขตแดนสำหรับในการทำทีมบอล

สิ่งแรกเป็นเรื่องของสนาม ด้วยเหตุว่าสนามฟุตบอลเป็นทรัพยากรหลักของกลุ่มบอล ถ้าเกิดคุณไม่มีสนามเป็นของตนเอง วิธีการทำกลุ่มบอลไทยเป็นเรื่องยากมากมายในแต่ก่อน สมมุติคุณเป็นบริษัทเอกชน ถ้าเกิดจะทำทีมบอลในบ้านนอก คุณต้องไปเสียตังค์เช่าสนาม เสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก

มันก็มองเป็นการลงทุนที่ได้ไม่คุ้มเสีย แม้กระนั้นสำหรับนักการเมืองท้องถิ่น เขามีทรัพยากรตรงนี้อยู่ในมือ โดยยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดคุณมีตำแหน่งอยู่ใน อบจ. (หน่วยงานบริหารส่วนจังหวัด) เพราะว่าตามกกฎหมายแล้ว สนามกีฬาประจำจังหวัด จะนับได้ว่าเป็นสินทรัพย์ของ อบจ.

ฉะนั้น ถ้าเกิดนักการเมืองเขตแดนที่เป็น อบจ. ทำทีมบอล อย่างแรกที่เอื้อประโยชน์ให้หมายถึงไม่ต้องชำระค่าเช่าสนาม สามารถลดงบประมาณค่าดูแลต่างๆ อย่างการดูแลและรักษาความปลอดภัย สามารถดึงตำรวจในพื้นที่มาทำเป็น พอนักการเมืองสามารถทุ่นค่าใช้จ่ายนิดหน่อยออกไป

ทำให้สามารถนำเงินไปเน้นย้ำใช้กับการเซ็นนักฟุตบอลฝีเท้าดี ราคาสูงมาร่วมทีม ซึ่งไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า การมีนักเตะที่เก่ง และก็มีชื่อมาเล่นในลีกระดับล่าง มันช่วยสร้างกระแสที่ได้รับความนิยมให้กับบอลได้จริง อีกหนึ่งปัจจัยหลักเป็น หากคุณเป็นนักการเมืองเขตแดนที่มีตำแหน่งสำคัญใน อบจ.

คุณสามารถนำงบประมาณของหน่วยงานเขตแดนมาช่วยเหลือกลุ่มบอลได้ ในฐานะส่วนหนึ่งส่วนใดของการมอบเงินอุดหนุนหน่วยงานที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมแคว้น ในอดีตกาลมันยังเกิดเรื่องที่ถูกตามกฎหมาย สามารถทำเป็น และก็กลุ่มบอลเป็นหนึ่งในนั้น หลายชมรมบอลได้ประโยชน์จากสิ่ง

ที่ได้เปรียบของการมีคนทำทีมเป็นนักการเมืองแคว้น ไม่ใช่แค่กลุ่มในระดับลีกภูมิภาคที่ได้ประโยชน์ แต่ว่ารวมทั้งกลุ่มประจำจังหวัดที่อยู่ในลีกใหญ่ เป็นต้นว่า จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดชลบุรี ก็ได้ผลดีจากประเด็นนี้แบบเดียวกัน นักการเมืองเป็นกลุ่มชนเหมาะสมกับแนวทางการทำกลุ่มบอลเขตแดน

แม้กระนั้นที่จริงแล้ว จำเป็นจะต้องไหมที่นักการเมืองต้องมาทำทีมบอล มันมีทั้งคนที่ต้องการทำจริงๆกับผู้ที่ต้องการใช้บอลสำหรับเพื่อการสร้างฐานเสียงทางด้านการเมือง ด้วยเหตุว่ากีฬานี้ช่วยให้นักการเมืองส่งผลงานได้จริง ยกตัวอย่าง ในหลายจังหวัด นักการเมืองที่ทำทีมบอล

ไปประสานมือกับสถานที่เรียนเขตแดน ทำเป็นในลักษณะเสมือนอติดอยู่เดมีบอล ส่งเด็กในจังหวัดทั้งยังเรียน รวมทั้งเล่นบอล นี่เป็นวิธีการทำผลงานในระบบการบ้านการเมืองเขตแดนที่แจ่มชัด กับการนำงบประมาณมาช่วยส่งเสริมเยาวชน สร้างจังหวะให้กับทารกในท้องถิ่นได้เรียนหนังสือ ได้เล่นบอล

แม้กระนั้นบางบุคคลก็ไม่ต้องการทำขนาดนั้น ด้วยเหตุรอบข้าง อีกทั้งคำเชิญ หรือแรงกดดันจากคนที่อยู่รอบข้าง ที่ต้องการจะเห็นทีมบอล ด้วยความเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจในจังหวัด ครั้งคราวก็ไม่อาจจะไม่ยอมรับได้ เนื่องจากท้ายที่สุดหน้าที่ของนักการเมืองหมายถึงการจำเป็นต้องรับใช้สังคมและก็สร้างผลตอบแทนแก่แคว้น

เพราะเหตุว่าท้ายที่สุดหากคุณไม่ทำทีม มันก็บางทีอาจกระทบกับคะแนนเสียง หรือชาวบ้านที่เขาถูกใจบอล บางทีก็อาจจะเสียเชื่อถือในตัวคุณ ? “เพราะเหตุใดจังหวัดอื่นมีกลุ่มบอล แต่ว่าบ้านพวกเราไม่มี” อะไรอย่างงี้ ในที่สุดพอเพียงในจังหวัดไม่มีผู้ใดทำ นักการเมืองก็จะต้องรับเอามาทำไว้ก่อน

มีความเชื่อกันว่า นักการเมืองท้องถิ่นทำทีมบอลเพื่อหวังคะแนนเสียง จริงๆแล้ว วิธีการทำกลุ่มบอลตอบปัญหากับการผลิตความชื่นชอบทางด้านการเมืองจริงไหม ผมว่านี่เป็นปัญหาที่ตอบยากนะ ว่าการทำบอลจะทำให้พลเมืองเลือกนักการเมืองไหม พวกเราไม่มีวันทราบคำตอบที่จริงจริงว่า ท้ายที่สุด

นักการเมืองคนนั้นได้ชนะการเลือกตั้งเพราะเหตุใด เว้นเสียแต่พวกเราจะลงพื้นที่ไปถามผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนครั้งละคน จริงอยู่ว่า มีนักการเมืองที่ทำทีมบอล แล้วก็ไปถึงเป้าหมายสำหรับในการออกเสียงอยู่มาก ด้วยเหตุนี้มันก็ไม่ผิดที่จะพูดว่า ถ้าหากทำทีมบอล นักการเมืองมีเปอร์เซนต์จะเป็นผู้ชนะ ดูบอลสด

บอลท้องถิ่น

บอลท้องถิ่น แต่ว่าในความนึกคิดของผม ผมเห็นว่าการเลือกตั้งเขตแดน มันมีหลายต้นสายปลายเหตุมากมาย ที่จะทำให้คนตัดสินใจเลือกนักการเมืองสักคน บางบุคคลมองเรื่องแนวทาง บางบุคคลก็เลือกเพียงแค่พรรค ไม่สนใจแนวทาง หรือบอลก็บางทีก็อาจจะเป็นต้นเหตุหนึ่ง ที่ทำให้คนเลือกนักการเมืองที่ทำทีมบอล

การเลือกตั้งมันมีความคิดที่สลับซับซ้อน บางเวลาบอลบางครั้งก็อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับในการลงคะแนนสำหรับบางบุคคล หรือเป็นต้นเหตุรอง แล้วก็สำหรับบางบุคคลบางครั้งอาจจะไม่เป็นผลเลยก็ได้ มันเป็นได้หมด

แต่ว่าที่แน่ๆเป็นแนวทางการทำกลุ่มบอล ไม่ใช่เครื่องรับรับรองว่า คุณทำทีมแล้วจะชนะการเลือกตั้ง เพราะว่าผู้ที่แพ้ก็มีไม่น้อย

ได้แก่ คุณสุนี สมมี ประธานกิตติมศักดิ์สโมสร จังหวัดลำปาง เอฟซี ก็เคยเป็นนายก อบจ. ของจังหวัดมาก่อน รวมทั้งทำทีมบอลมาตลอด แต่ว่าพอลงลงคะแนนเสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระดับประเทศ เมื่อปีให้หลัง ได้คะแนนเพียงแค่ 4 พันเสียง แพ้เสียหายให้กับฝั่งเพื่อไทย

ในทางตรงกันข้าม บางบุคคลไม่ทำทีมบอล หรือเคยทำแล้วเลิกทำทีมไป แม้กระนั้นชนะการเลือกตั้งก็มี อย่างเคสของจังหวัดพะเยา เขาเคยมีกลุ่มบอล ทำโดย คุณธรรมนัส พรหมเผ่า แล้วเพียงพอถึงจุดหนึ่งคุณธรรมนัสก็เลิกทำ ตกลงใจพักทีม กลุ่มจังหวัดพะเยาก็หายไปจากลีกอาชีพ

แม้กระนั้นพอเพียงมาถึงการเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา คุณงามความดีนัส กลับได้รับการเลือกตั้ง ในขณะที่มิได้ทำทีมบอล เป็นเลิกทำไปแล้ว แถมอยู่พรรคพลังประชาชนเมืองด้วยนะ แต่ว่าคุณความดีนัส ยังชนะการเลือกตั้ง ในขณะที่ตามความจริงการที่คุณเป็นนักการเมือง ขึ้นตรงต่อพลังประชากรเมือง มันไม่ได้ง่ายที่จะชนะเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคเหนือ

สิ่งที่ผมจะบอกเป็น การเลือกตั้งเขตแดนมันมีหลายสาเหตุมากมาย ที่จะทำให้นักการเมืองสักคนชนะการเลือกตั้ง บอลอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีผลต่อการผลิตฐานคะแนนบ้าง แม้กระนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญขนาดนั้น จำพวกที่เรียกว่าจะกำหนดผลของการลงคะแนนเสียง ยังมีเรื่องมีราวอื่นที่บางทีอาจจะสำคัญกว่า

ผมคิดว่า บอลเป็นหนึ่งในอุปกรณ์โปรโมตตนเองต้นแบบหนึ่งของนักการเมืองมากยิ่งกว่า ส่วนจะเห็นผล ไหมสำเร็จ ก็จะต้องมองเป็นกรณีไป ตอนไม่กี่ปีให้หลัง กระแสบอลในลีกภูมิภาคตกลงไปๆมาๆก พร้อมทั้งการหายไปของการเลือกตั้งแคว้น การบ้านการเมืองมีส่วนมากน้อยแค่ไหน

กับกระแสบอลรากต้นหญ้าที่หายไป ผมเห็นว่ามีส่วน หากพวกเรามองคนทำทีมบอลระดับรากต้นหญ้าในตอนนี้ จะพบว่ามีปริมาณนักการเมืองแคว้นน้อยกว่าคราวก่อนมากมาย บางบุคคลเลิกทำ มอบสิทธิ์ถึงแม้ว่าจะคนอื่นๆ หรือยุบกลุ่มไปเลยก็มี เหตุแรกเป็น ในตอนที่ คสช. (ภาควิชารักษาความเงียบสงบแห่งชาติ)

คุมอำนาจอยู่ราว 5 ปี เป็นตอนที่ไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พอเพียงมันเป็นแบบนั้น นักการเมืองบางบุคคลก็ไม่รู้จักจะทำทีมไปเพราะอะไร เพราะว่าไม่ได้อะไรกลับมา พวกเราไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า นักการเมืองจำนวนมากทำทีมบอลเพื่อหวังสร้างผลงาน ฐานคะแนน แต่ว่าพอเพียงไม่มีการเลือกตั้ง

ก็ราวการเสียตังค์หลักล้านไปแบบไร้ประโยชน์ เมื่อแนวทางการทำกลุ่มบอล ไม่ตอบปัญหา ไม่คุ้ม นักการเมืองก็เลยเลิกทำ บวกกับพอเพียง คสช.เข้ามา ภาพของการบ้านการเมืองแคว้นก็เปลี่ยนแปลง นักการเมืองบางบุคคลหลุดออกมาจากตำแหน่ง เอาข้าราชการมาปฏิบัติหน้าที่แทน

เพียงพอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมานั่งตำแหน่งบริหารเขตแดน เขาเป็นคนจากการบ้านการเมืองศูนย์กลาง ไม่ต้องออกเสียง ไม่มีความจำเป็นที่ต้องสร้างผลงานเพื่อสร้างฐานเสียง มันก็เลยไม่เกิดแนวคิดเริ่มที่จะสร้างผลงานให้กับเขตแดน หรือกำเนิดแนวนโยบายต่างๆกลุ่มบอลเขตแดนก็ได้รับผลพวง

รวมทั้งเรื่องงบประมาณที่หายไป จากเดิมที่การบ้านการเมืองส่วนท้องถิ่น สามารถนำงบประมาณมาช่วยเหลือสมาพันธ์บอลได้ในแต่ก่อน ขณะนี้ไม่อาจจะทำเป็นแล้ว ทำให้กลุ่มบอลหลายทีมขาดงบประมาณ เมื่อเงินหายไปความน่าดูของบอลลีกรากต้นหญ้ามันก็ต่ำลง นักฟุตบอลที่มีคุณภาพก็เริ่มหายไป

มองดูอีกมุมหนึ่ง พอเพียงไม่มีการเลือกตั้งแคว้น ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มบอล กับนักการเมือง มันก็ห่างกันตามไปด้วย เนื่องจากกลุ่มบอลก็คือผู้แทนของพื้นที่นั้นๆเมื่อการเลือกตั้งที่เคยเป็นตัวเชื่อมกึ่งกลางระหว่างผู้คนกับนักการเมือง ถูกเว้นว่างไปนาน นักการเมืองก็ไม่ทราบจะว่าทำทีมไปเพราะอะไร

รวมทั้งยังมีสาเหตุอื่นด้วยเช่นเดียวกันที่ก่อให้เกิดผลเสียให้ความชื่นชอบบอลลีกด้านล่างต่ำลง มันไม่ใช่แค่เรื่องจากฝั่งการบ้านการเมืองเพียงอย่างเดียว เป็นต้นว่า การเปลี่ยนระบบลีกจากลีกภูมิภาค แข่งขันตามโซน มีอิสรภาพยลีก 3 กับ 4 ที่เป็นการแข่งขันผ่านภาค มีผลเสียกับแนวทางการทำกลุ่มของนักการเมืองเช่นเดียวกัน แมนยูบ๊วย