พลาดแต่แก้ตัว เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-0 สุโขทัย เอฟซี

พลาดแต่แก้ตัว แดร์เลย์ แก้ตัวจากบอดโทษครึ่งแรกได้เสร็จ ด้วยการยิงหนึ่งเม็ด พา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดรังตี สุโขทัย เอฟซี 3-0 ทำให้ กิเลนทะนง เฮ 3 เกมติด ขึ้นไปรั้งที่ 4 มีคะแนนตามหลัง บุรีรัมย์ กลุ่มชั้น 3 อยู่แต้มเดียว ในช่วงเวลาที่ ค้างคาวไฟ อยู่ที่ 11 ของตาราง

การแข่งขันชิงชัยบอลไทยลีก2020/2021 ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เป็นเกมในคู่ระหว่าง กิเลนเย่อหยิ่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กลุ่มชั้น 6 ของตาราง ที่มี 28 แต้ม จาก 18 นัดหมาย เปิดบ้านต่อกร ค้างคาวไฟ สุโขทัย เอฟซี กลุ่มชั้น 11 ของตาราง ที่มี 23 แต้ม จาก 18 นัดหมาย

เริ่มเกม น.5 เจ้าถิ่นกิเลนเย่อหยิ่ง ได้ทักก่อนจากจังหวะที่ ปรเมศย์ บางทีอาจสวย ตักบอลไปให้กับ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ หลุดเข้าจุดโทษทางด้านซ้าย ก่อนที่จะแตะต้องหลบผู้เล่นสุโขทัย เอฟซี หนึ่งจังหวะแล้วก็หลอกยิงเสาแรก แม้กระนั้นทาง สงวน ชมพูพฤกษ์ ไม่หลงกลยืนรับเข้าซองได้สบาย

น.11 ผู้ตัดสิน ศิวกร ภูเขาอุดม ได้มีการฟัง VAR จุดลูกโทษ จากจังหวะที่ แดร์เลย์ แผงหน้าเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตักบอลเข้าในจุดโทษ ก่อนที่จะ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ จะโฉบมาโหม่งไปติดเซฟ สงวน ชมพูพฤกษ์

แต่ว่าจังหวะที่ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ โฉบมาโหม่ง ราวกับ นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ วิ่งเข้ามาใช้เท้าสกัดแล้วก็เช่นเดียวกับจะไปโดนหัวของ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ แต่ผู้ตัดสินได้ขอไปดูจอด้วยตัวเอง ก่อนวินิจฉัยมิได้ให้ลูกจุดลูกโทษกับเจ้าถิ่นกิเลนทะนงอะไร สวาทแคทหกเกม

น.25 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ลุกจุดลูกโทษจากจังหวะที่ ปรเมศย์ บางทีอาจสวยงาม ได้ยิงเต็มข้อในจุดโทษ บอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมา ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ

โถมตัวขึ้นมาโหม่งแม้กระนั้นไปถูก โจชัว กรอมเมน แนวรับสุโขทัย เอฟซี ไปดึงล้มในจุดโทษ อย่างไรก็ดี แดร์เลย์ ดันยิงไปชนเสาเสียโอกาสทองให้เจ้าถิ่นกิเลนลำพองขึ้นนำ

แต่แม้ย้อนจากภาพช้าในจังหวะจุดลูกโทษ สงวน ชมพูพฤกษ์ นายทวารสุโขทัย เอฟซี ได้กระโจนออกมาก่อนทั้งยัง 2 ขา แต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินที่อยู่ห้องควบคุม VAR มิได้ส่งสัญญาณหนือแจ้งมาให้กับผู้ตัดสินในสนามอะไร

พลาดแต่แก้ตัว

จนกระทั่ง น.35 จากลูกเตะมุมฝั่งขวา วีระเทวดา ป้อมชนิด เปิดบอลลอยเข้ามาในจุดโทษ

ก่อนที่จะบอลจะมาเข้าทาง ลูคัส โฮช่า แนวรับเจ้าถิ่นกิเลนทะนง จ่ายบอลไปสู่ตูดตาข่าย แม้กระนั้นไลน์แมนได้ยกธงขาวให้เป็นลูกล้ำหน้า อย่างไรก็ดีผู้ตัดสิน ศิวกร ภูเขาอุดม ได้ฟัง VAR ว่าลูคัส โฮช่า ล้ำหน้าหรือเปล่

จนถึงขอมาเช็คจอด้วยตัวเอง ก่อนวินิจฉัยให้เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ขึ้นนำ สุโขทัย เอฟซี 1-0 ก่อนที่จะครึ่งแรกจะลงเอยด้วยสกอร์นี้ ข่าวบอลล่าสุด

ไปสู่ช่วงหลัง น.53 เจ้าถิ่นกิเลนลำพอง คงจะได้ประตูลำดับที่สองเมื่อ ฉัตรมงคล ทองคีรี ตักบอลเข้าไปในจุดโทษ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ พักอกหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะวอลเลย์เต็มข้อ แต่ว่าบอลดันโผบินผ่านคานออกไปอย่างโชคร้าย

น.58 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ วัฒนามือณ์ ความเจริญรุ่งเรืองละคร เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าจุดโทษ แดร์เลย์ วิ่งโฉบเข้ามาโหม่งเปลี่ยนแปลงทางจ่ายบอลไปสู่ตูดตาข่ายอย่างงดงาม

น.60 กลุ่มเยี่ยมค้างคาวไฟ คลาดโอกาสตีไข่แตกจริงๆเมื่อ หินผา ศรีกำปัง เปิดบอลโด่งเข้าจุดโทษ ลูคัส โฮช่า แนวรับเจ้าถิ่นกิเลนลำพอง โหม่งบอลไม่ถูกเหลี่ยมไปชนเสาในจังหวะแรก

บอลเด้งมาเข้าทางปืน จอห์น บาจโจ้ ตามซ้ำฤษีองแต่ว่าบอลดันไปไถล ลูคัส โฮช่า ที่ตามมาบล็อคได้ทัน บอลไปชนเสาเป็นครั้งลำดับที่สองอย่างไม่น่าเชื่อ ดูบอลสด

ช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บนาทีที่ 3 เจ้าถิ่นกิเลนทะนงมาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ส่งบอลมอบจากฝั่งซ้ายเข้ากึ่งกลางและก็เป็น วงศแขน ขัยกุลเทวินทร์ ที่วิ่งเพิ่มขึ้นมาจะยิงเข้าไปโล่งเตียนๆช่วยทำให้กลุ่มหนีเป็น 3-0
จบเกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี 3-0 ทำให้พวกพ้อง กิเลนทะนง ชนะรวด 3 เกมติด และไม่แพ้ผู้ใดในลีกเป็นเกมที่ 6 ต่อเนื่องกัน เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนน

ขยับขึ้นไปรั้งชั้นที่ 4 ของตารางได้เสร็จ ในขณะที่สุโขทัย เอฟซี ยังมี 23 แต้ม และก็มีคะแนนเหนือจากโซนตกชั้นเพียงแต่ 3 แต้มแค่นั้น