รัวประตูแซง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โล่งใจ แต่ช่วงท้ายเกมมารัว 3 ประตูแซงกลับมาคว้าชัย 3-1

รัวประตูแซง จำพวกโรคหืดจับผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 ถัดไป ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4บอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 เป็นการเจอกันระหว่าง เชลท์แน่ม กลุ่มจากลีกทู เปิดจอนนี่-ร็อคส์ สเตเดี้ยมของตนจัดการ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากพรีเมียร์ลีก ซึ่งผู้ชนะของเกมนี้จะบุกไปเยี่ยม สวอนซี กลุ่มจากแชมเปี้ยนชิพ ในรอบ 5

เชลท์แน่ม ของ ไมเคิ่ล ดัฟฟ์ เกมนี้ฝากความมุ่งมาดไล่ล่าประตูไว้ลำดับที่สองคู่หน้าอย่าง แอลฟี้ เมย์ รวมทั้ง จอร์จ ลอยด์ ตอนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แปลงถึง 10 ตำแหน่ง

จากเกมลีกที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 มีเพียง ฟิล โฟเด้น ผู้เดียวที่ลงสม่ำเสมอโดยจะผสานเกมรุกร่วมกับ ริยาด ภูตผีปีศาจเรซ, กาเบรียล เชซุส และก็เฟร์ราน โคนร์เรส ชนะทุกรายการ

ครึ่งแรกนาที 12 เรือใบสีฟ้า” แทบได้ประตูขึ้นนำข้างหลังไอ้หนู ทอมมี่ ภูเขาล์ วัย 19 ปี ครอสบอลมาเสาสองถึง แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ วิ่งมาซัดเปรี้ยงบอลพุ่งแรงผ่านตัวนายด่านเชลท์แน่มไปสุดแท้แต่ยังไปโดน เบน โทเซอร์ กระแทกจากเส้นประตูออกมาได้เฉียด

กลุ่มเยี่ยมยังบี้อย่างมาก นาที18 ฟิล โฟเด้น ผ่านมาหน้ากรอบให้ เฟร์ราน โคนร์เรส วิ่งมาซัดด้วยซ้ายไม่ถึง 6 หลาแต่ว่าก็ยังไปติดเซฟของ โจชัว กริฟฟิธส์ นายทวารเจ้าถิ่น

รัวประตูแซง

เชลท์แน่ม ได้ช่องทองในนาที 23 ข้างหลัง แอลฟี้ เมย์ เล่นชิ่งกับ ฟินน์ เอซาซ

ก่อนที่จะกระดกบอลผ่านแนวรับสิตี้ให้ เมย์ หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปซัดเสาแรกแม้กระนั้นยังไปติดเซฟของ แซ็ค สเตฟเฟ่นสมาชิกของ เป๊ป มานะบดบีบคั้นเจ้าถิ่นแม้กระนั้นยังหาช่องทางพังทลายตาข่ายขึ้นนำไม่เป็นผลสำเร็จ

นาที39 โฟเด้น หุบเข้าไปเล่นกึ่งกลางก่อนแทงขึ้นหน้าให้ ริยาด ปีศาจเรซ กลับหลบแล้วตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งแรงแม้กระนั้นก็ยังไป

ตรงตัว โจชัว กริฟฟิธส์ ตีออกมาได้ ก่อนที่จะผู้ตัดสินจะเป่าหยุดเกมชั่วครั้งชั่วคราวเนื่องจากว่ามีคนรักบอลจุดดอกไม้เพลิงอย่างสม่ำเสมออยู่นอกสนาม ก่อนที่จะกลับมาเล่นกันต่อ ข่าวบอลล่าสุด

หากแม้ผู้ตัดสินจะทดเวลาเจ็บครึ่งแรกออกไปถึง 6 นาทีแม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรกันได้ เชลท์แน่ม ยังเสมอกับ แมนฯสิตี้ แบบไม่มีสกอร์ 0-0

ช่วงหลัง นาที53 ทัพเรือใบสีฟ้าคลาดโอกาสชิงขึ้นนำอีกรอบข้างหลัง ฟิล โฟเด้น ส่งบอลให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ กริฟฟิธส์ ได้สุดแต่บอลพุ่งไปชนเสาออกไปอย่างโชคร้าย

นาที59 เปลี่ยนเป็น เชลท์แน่ม ที่ทำช็อกพังทลายประตูขึ้นนำ แมนฯสิตี้ ไปก่อน 1-0 จากจังหวะทุ่มไกลจากข้างสนามเข้ามา ชาร์ลี เรมึงลนลานที่ขึ้นกระแทกเอาชนะ ลาป๊อร์กต์ บอลเช็ดถูไปโดน จอร์จ ลอยด์ ก่อนจะเข้าทาง แอลฟี้ เมย์ ที่โฉบมาจิ้มบอลผ่าน แซ็ค สเตฟเฟ่น เข้าไป

สมาชิกของเป๊ปเพียรพยายามอย่างมาก จนกระทั่ง นาที81 เรือใบสีฟ้า มาไล่ตีเสมอ 1-1 เสร็จ จากจังหวะที่ ยกเอา กานเซโล่ ครอสเข้าไปในกรอบ ฟิล โฟเด้น ใส่เข้าไปแปด้วยซ้ายเข้า ดูบอลสด

ต่อจากนั้นนาที85 แมนฯสิตี้ มาแซงขึ้นนำ 2-1 จนได้แฟร์นานดินโญ่ตักบอลไม่เห็นหัวแนวรับเจ้าถิ่นให้ กาเบรียล เชซุส หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปก่อนดูดบอลลงอย่างเนียนแล้วซัดด้วยขวาจ่ายบอลผ่าน กริฟฟิธส์ นายด่านเชลท์แน่มเข้าไป

ตอนทดเจ็บ นาที 90+4 ผู้ร่วมทีมของเป๊ปมาได้ประตูลำดับที่สามหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน ผู้เล่นสำรองหักจากเส้นข้างหลังเข้าไปให้ เฟร์ราน โคนร์เรส ยิงเข้าไปจบเกม แมนฯสิตี้ โรคหืดจับแซงกลับมาเอาชนะ เชลท์แน่ม 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 โดยจะเข้าไปพบกับ สวอนซี