ลงเล่นเป็นตัวจริง เจสซี่ ลินการ์ด กำหนด ที่ผ่านมาตนมิได้รับจังหวะลงเล่น

ลงเล่นเป็นตัวจริง ทั้งๆที่นับว่าเป็นผู้ที่ฟิตที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ดพร้อมกล่าวว่าตอนที่โดนดองกับ “ซาตานแดง” ตนถึงกับขนาดฝึกเพิ่มด้วย เจสซี่ ลินการ์ด ปีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ปัจจุบันนี้มาเล่นให้ เวสต์หมูแฮม ยูไนเต็ดด้วยคำสัญญายืมตัวนั้น พูดว่าตนไม่มีช่องทางที่จะพิสูจน์ตนเอง

กับที่ “ปีศาจแดง” ในขณะที่ตนเป็นผู้ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรงที่สุดแล้วก็ฟิตที่สุดของกลุ่มเวลาที่หมดมาตรการล็อคดาวน์แล้ว ก่อนจะมาอยู่กับ เวสต์แฮม เมื่อตอนมกราคมก่อนหน้าที่ผ่านมานั้น ลินการ์ด เปลี่ยนเป็นส่วนเกินของ แมนฯ ยูไนเต็ดซึ่งส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหตุว่าตอนที่เขา

ได้ลงเล่นนั้นเจ้าตัวทำผลงานได้น่าผิดหวัง โดยนัดหมายปัจจุบันที่เขาลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องย้อนไปถึงเกม คาราบาว คัพ รอบ 4 กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เมื่อช่วงปลายกันยายนก่อนหน้านี้เลย อย่างไรก็แล้วแต่ พอเพียงมาอยู่กับ เวสต์แฮม แล้วนั้น ลินการ์ด ข่าวบอลล่าสุด

ก็เปิดตัวกับกลุ่ม ได้งามด้วยกระบวนการทำผู้เดียว 2 ประตูจนกระทั่งช่วยทำให้กลุ่มชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 ช่วงวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งจากนั้นเขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมที่ “ขุนค้อน” เสมอกับ ฟูแล่ม 0-0 ช่วงวันที่ 6 ก.พ. ก่อนหน้าที่ผ่านมา รวมทั้งนัดหมายปัจจุบัน

ที่กลุ่มของผู้จัดการทีมฟุตบอล เดวิด มอยส์ ต้อน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด3-0 เมื่อวันจันทร์ที่ 15 ก.พ. ก่อนหน้านี้ด้วย ข้างหลังโดนถามคำถามว่าเพราะเหตุไรเขาถึงเลือกมาเล่นกับ เวสต์แฮม แบบยืมตัว แทนที่จะอยู่ชิงตำแหน่งตัวจริงที่ แมนฯ ยูไนเต็ดลินการ์ด ก็ตอบว่า “สำหรับคนภายในวัยแบบผมน่ะ

สิ่งที่จำเป็นเป็นการได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอแสดงให้คนเห็นว่าคุณสามารถทำอะไรได้ สิ่งแรกเลยจ้า ผมมาตรงนี้เพื่อจะได้ลงเล่นรวมทั้งเพื่อจะช่วยกลุ่มให้ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็หวังว่าผมจะสามารถทำอย่างงั้นได้ พอเพียงจบฤดูแล้วพวกเราก็จะได้มองเห็นกันว่าพวกเราจะเป็นอย่างไรกันต่อ

สิ่งที่จำเป็นสำหรับผมเป็นการได้ลงเล่นอย่างสุขสบาย, ได้สนุกสนานกับการเล่นของตน และก็ได้กลับไปเป็น เจสซี่ คนเดิม ในตอนที่มีการกักบริเวณน่ะผมย้อนรำลึกถึงตอนที่ผมเล่นเจริญที่สุด นั่นเป็นฤดูภายใต้การควบคุมกลุ่มของ โชเซ่ ที่ผมทำคะแนนได้มากจนได้ไปเล่นบอลโลก ดูบอลสด

รวมทั้งฤดูที่โอเล่ เพิ่งจะเข้ามาคุมกลุ่มที่ผมทำผลงานในตอนแรกๆเจริญ มันทำให้ผมรู้สึกมีแรงผลักดันแล้วก็มีแรงกระตุ้นอีกที ผมต้องการเดินหน้าสู้อีกที แน่ๆว่าการยอมยกธงขาวรวมทั้งเลือกลู่ทางที่มันกล้วยๆน่ะมันสามารถทำเป็น แต่ว่าคนอย่างผมที่ผ่านอะไรมามากมายรวมทั้งรู้จักเกมบอลดีน่ะ

ไม่อาจจะยอมอย่างนั้นได้ ผมเป็นพวกที่จะขอสู้ตายอยู่เป็นประจำ ภายหลังจากหมดมาตรการล็อคดาวน์แล้วผมก็กลับมาอยู่กับกลุ่มในภาวะที่ตนเองเป็นผู้ที่แข็งแรงที่สุดรวมทั้งฟิตที่สุด (ของขุมกำลัง แมนฯ ยูไนเต็ด) แต่ว่าผมกลับมิได้รับจังหวะที่คอย แต่กระนั้นตลอดตอนที่อยู่กับตรงนั้นและไม่ได้ลงเล่นน่ะ

ผมก็กระทำการฝึกซ้อมเพิ่ม แล้วก็ทำให้ตนเองยังมีภาวะความฟิต

เผื่อไว้ก่อน

ลงเล่นเป็นตัวจริง ส่วนรอบ 8 กลุ่มในที่สุด จะมีการจับฉลากอีกทีในวันที่ 19 มี.ค.

ลงเล่นเป็นตัวจริง โดยจะกระทำการจับล่วงหน้ารอบตัดเชือกไปด้วยเลยในตัว ซึ่งโปรแกรมครั้งแรกจะเกิดขึ้นตอนระหว่างวันที่ 6-7 เดือนเมษายน และก็ครั้งแรกตอนระหว่างวันที่ 13-14 เดือนเมษายน ผ่านไปที่รอบรองชนะเลิศ โปรแกรมมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เดือนเมษายน และก็เลกสองวันที่ 4-5 พ.ค.

ส่วนนัดหมายชิงแชมป์จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งก็หวังว่า หงส์แดง จะก้าวไปสู่สังเวียนชิงดำนี้ได้อีกที เจอร์เก้น คล็อปป์ : เคยพา ดอร์ทมุนด์ ได้แชมป์ บุนเดสลีกา 2 ฤดูต่อเนื่องกัน แล้วก็พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิษในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ ก่อนที่จะนำ หงส์แดง เป็นแชมป์ยุโรป เผื่อไว้ก่อน

ยุคที่ 6 ในปี 2019 แล้วก็ต่อไปเขาก็ทำให้กลุ่มบรรลุความสำเร็จมากเพิ่มขึ้นอีกจากการได้แชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในปี 1990 ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ : ได้รับการเชิดชูว่าเก่งเกินวัยทั้งๆที่พึ่งจะแก่เพียงแค่ 33 ปี แล้วก็มีความฉลาดปราดเปรื่องเฉียบแหลม ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับคำยกยอ

อย่างนั้นเป็นด้วยเหตุว่าสามารถพา ไลป์สิกข์ ไปถึงรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตั้งแต่ฤดู 2019-20 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของเขากับกลุ่ม มันทำให้เขาได้รับการโหวตให้เป็นชั้น 3 สำหรับในการมอบรางวัลที่ปรึกษาชายดีเยี่ยมที่สุดที่ปีของ ยูฟ่า

ดูบอลสด

เรียกความศรัทธาสู่ “เดอะ ค็อป”

ลงเล่นเป็นตัวจริง เกมนี้นับว่าเป็นจังหวะดีสำหรับ หงส์แดง สำหรับในการที่จะกู้วิกฤติศรัทธาจากแฟนบอลให้กลับมา เนื่องจากว่าบรรยากาศในเกมบอลถ้วยยุโรป คงจะทำให้ฟอร์มของ “ลิเวอร์พูล” ค่อยๆฟื้้นคืนชีพอีกรอบ ภายหลังดักดานกับผลงานสุดตกอับในลีกเมืองผู้ดีมานานกว่าเดือนครึ่ง เหตุการณ์

ของหงส์แดง ในพรีเมียร์ลีก น่าผิดหวังมากมายๆในช่วงเวลานี้พวกเขาหลุดจากกลุ่มท็อปโฟร์ไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้ขวัญพลังใจของนักฟุตบอลบางครั้งก็อาจจะดร็อปลงไปมาก แม้กระนั้นก็นับได้ว่าเป็นโชคดีที่มีเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก มาขั้นกึ่งกลางพอดิบพอดี เนื่องจากอย่างต่ำ ๆ

บรรยากาศใหม่ๆอาจจะเป็นผลให้หลายๆอย่างเปลี่ยนไปได้ ที่สำคัญในแมตช์ถัดไป “ลิเวอร์พูล” จำต้องทำศึกสงครามเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ จัดการ เอฟเวอร์ตัน ที่แอนฟิลด์ ซึ่งในตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีมนต์ขลังเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นการเจอกับ ไลป์ซิก เปรียบเหมือนการเรียกสติกลับมา

แต่ว่าแม้ยังทำไม่เสร็จ เกมเจอกับเพื่อนบ้านที่รักอาจจะเป็นผลให้แฟนบอลได้น้ำตารินแหงๆ